Home Blog Page 57

ยืดอายุตึ๊งของโรงจำนำรัฐ แถมลดดอกให้ผู้จำนำใหม่

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติโครงการ “สธค.โรงรับจำนำของรัฐ สู้ภัยโควิด19” ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

1.ขยายเวลาตั๋วจำนำ
ผู้ที่มีตั๋วจำนำตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563 – 31 มีนาคม 2563 วงเงินต้นไม่เกิน 10,000 บาท จะขยายเวลาตั๋วจำนำจากเดิม 4 เดือน 30 วัน เป็น 4 เดือน 120 วัน โดยไม่คิดดอกเบี้ยในส่วนที่ขยายเวลา จำกัด 1 คน 1 สิทธิ์เท่านั้น

2.ลดดอกเบี้ย
ผู้จำนำใหม่วงเงินต้นไม่เกิน 15,000 บาท ลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0.125 ต่อเดือน จำกัดสิทธิ์ 1 คน ต่อตั๋ว 1 ใบ ต่อ 1 รอบจำนำเท่านั้น

ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2563

กระทรวงพัฒนาสังคมคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือประชาชนในการขยายเวลาตั๋วจำนำประมาณ 41,000 รายและลดดอกเบี้ยรับจำนำประมาณ 177,600 ราย รวมทั้งสิ้นประมาณ 218,600 ราย ทั้งนี้ถือเป็นมาตรการหนึ่งในการดูแลและเยียวยาประชาชนฐานรากที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติอนุมัติให้สธค.กู้เงินดอกเบี้ยต่ำ จำนวน 2,000 ล้านบาทจากธนาคารออมสิน โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อเป็นการเตรียมเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับธุรกรรมการให้บริการรับจำนำแก่ประชาชน ขณะนี้ อยู่ระหว่างกระทรวงการคลังดำเนินการบรรจุไว้ในแผนบริหารหนี้สาธารณะ

ก.ล.ต. อนุมัติ กองทุน SSF แล้ว 17 กองทุน จาก บลจ. 13 แห่ง พร้อมขาย 1 เม.ย.

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า หลังจาก ล่าสุด วันที่ 30 มีนาคม 2563 ก.ล.ต. ได้อนุมัติการจัดตั้งกองทุน SSF หลักทรัพย์จดทะเบียน ไปแล้ว 17 กองทุน จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จำนวน 13 แห่ง

“ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้พิจารณาและอนุมัติการจัดตั้งกองทุน SSF หลักทรัพย์จดทะเบียนโดยเร็ว เพื่อให้กองทุนพร้อมเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปในวันที่ 1 เมษายน 2563”

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 มีมติให้ประชาชนทั่วไปหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนกองทุน SSF ที่มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท โดยแยกจากวงเงินหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน SSF กรณีปกติ และไม่อยู่ภายใต้เพดานวงเงินหักลดหย่อนรวมในกองทุนเพื่อการเกษียณทั้งหมด โดยต้องซื้อระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เตือนประชาชน ระวังซื้อไข่ได้ไม่เต็มแผง หากเจอให้แจ้งกรมการค้าภายใน

มูลนิธีเพื่อผู้บริโภค เตือนประชาชน ตรวจตราให้ดูตอนซื้อไข่ไก่ยกแผง หลายๆ แผง ว่า ได้ไข่เต็มแผงหรือไม่
ถ้าซื้อมาแล้ว พบว่าไข่มีไม่ครบ ไม่เต็มแผงเหมือนที่ควรจะเป็น สามารถแจ้งไปที่กรมการค้าภายในให้เข้ามาตรวจสอบ ที่เบอร์สายด่วน 1569

ทั้งนี้ตามมาตรา 85 ใน พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 ระบุว่า ผู้ใดขายหรือจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อขาย หรือจำหน่ายสินค้าหีบห่อที่แสดงปริมาณไว้
โดยรู้ว่าปริมาณของสินค้าที่บรรจุในหีบห่อไม่ถูกต้องตามที่แสดงไว้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

– –

สำนักอนามัย ออกคำแนะนำร้านอาหารเดลิเวอรี่ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า

นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และประกาศกรุงเทพมหานคร สั่งปิดสถานที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว และกำหนดให้สถานประกอบการและร้านอาหารต้องจำหน่ายแบบนำกลับไปทานที่อื่นหรือที่บ้าน(Take Away) ส่งผลให้ประชาชนหันมาใช้บริการธุรกิจขนส่งสั่งอาหารมารับประทานที่บ้านมากขึ้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนและยกระดับมาตรฐานการดำเนินการของผู้ประกอบธุรกิจขนส่งอาหารกรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยจึงออกคำแนะนำสำหรับการให้บริการอาหารแบบเดลิเวอรี่ (Delivery)ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อให้ผู้ประกอบการดำเนินการ ดังนี้

นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร

1.ผู้ประกอบการที่จัดบริการอาหารแบบเดลิเวอรี่ ให้ติดตามสถานการณ์และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และให้ความรู้หรือประชาสัมพันธ์แก่ผู้ขนส่งอาหาร เช่น การสวมหน้ากากที่ถูกวิธี และขั้นตอนการล้างมือที่ถูกต้อง เป็นต้น ผ่านช่องทางต่างๆ ของบริษัท พร้อมจัดทำทะเบียนผู้ขนส่งอาหารที่เป็นพนักงานของบริษัททุกราย จัดให้มีกล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะสำหรับขนส่งอาหารให้แก่ผู้ส่งอาหาร ที่มีโครงสร้างแข็งแรง ปกปิดมิดชิด สามารถป้องกันการปนเปื้อน และใช้กล่องบุฉนวนเพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสม จัดบริการหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือให้แก่ผู้ขนส่งอาหาร จัดให้มีการตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้นให้แก่ผู้ขนส่งอาหารทุกราย ก่อนออกปฏิบัติงานทุกวัน กรณีมีผู้ขนส่งอาหารเป็นจำนวนมาก ให้จัดหาจุด check-in สำหรับตรวจคัดกรองให้ครอบคลุม หากพบผู้ขนส่งอาหารมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์ทันที และจัดทำคำแนะนำหรือแบบประเมินตนเอง (Self-check) ในการดูแลตนเองของผู้ขนส่งอาหาร เพื่อให้ผู้ขนส่งอาหารได้มีการตรวจสอบสุขภาพเบื้องต้น จัดให้มีภาชนะรองรับอาหารสำหรับวางอาหารให้ลูกค้าสำหรับผู้ส่งอาหารทุกราย เช่น กล่องหรือโต๊ะแบบพับได้ และจัดทำคำแนะนำให้ผู้ขนส่งอาหารให้มีวิธีการส่งอาหารแบบ Personal distancing โดยยืนห่างจากลูกค้าอย่างน้อย 1 เมตร และห้ามวางอาหารบนพื้น รวมทั้งเพิ่มช่องทางการชำระค่าบริการเป็นแบบ E-Payment

2.ร้านอาหารให้บริการอาหารในรูปแบบเดลิเวอรี่ ต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะ อาหารปรุงสำเร็จ ปรุงสุกใหม่ สำหรับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ปรุงให้สุกด้วยความร้อนไม่น้อยกว่า 70 องศาเซลเซียส หลีกเลี่ยงการจำหน่ายอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก มีการใช้อุปกรณ์ในการหยิบจับอาหารที่ปรุงสำเร็จพร้อมบริโภค จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่สำหรับล้างมือ หรือจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ จัดสถานที่ให้เพียงพอกับจำนวนผู้ขนส่งอาหารที่เข้ามาใช้บริการโดยจัดระยะห่าง 1 เมตร และมีการระบายอากาศที่เหมาะสม จัดหาภาชนะบรรจุอาหารที่เหมาะสมกับอาหารแต่ละประเภท แข็งแรง ปกปิดมิดชิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนในระหว่างการขนส่ง ไม่ใช้โฟมในการบรรจุอาหาร และซ้อน ส้อม ตะเกียบ ต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ปกปิดมิดชิด อาหารปรุงสำเร็จ มีการติดฉลากที่ระบุรายละเอียดอย่างชัดเจน เช่น ชื่อร้านอาหาร วัน/เดือน/ปี เวลาที่ผลิต ระยะเวลา และอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษาอาหาร เป็นตัน กรณีจัดส่งอาหารเสี่ยง เช่น อาหารที่ใช้มือสัมผัสมาก (ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ฯลฯ) อาหาร ที่มีส่วนประกอบของ กะทิ นม ควรแนะนำให้ผู้บริโภคนำไปอุ่นร้อนก่อนรับประทาน หากพนักงานมีอาการเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์ทันที

3.ผู้ขนส่งอาหารเดลิเวอรี่ ต้องลงทะเบียนกับผู้ประกอบการที่จัดบริการอาหารแบบเดลิเวอรี่ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ก่อนเข้าร้านอาหาร ก่อนและหลังการส่งอาหารให้ผู้สั่งซื้ออาหาร รวมทั้งหลังเข้าห้องสุขา หลังจับสิ่งสกปรก และจับเงิน หากมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์ทันที ต้องใช้กล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะสำหรับขนส่งอาหาร ที่มีโครงสร้างแข็งแรง ปกปิดมิดชิดในลักษณะที่ช่วยป้องกันการปนเปื้อน และใช้กล่องบุฉนวนเพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมให้หมั่นดูแลรักษากล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะสำหรับขนส่งอาหารให้อยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน และทำความสะอาดด้วยน้ำและน้ำยาทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรค ด้วย Alcohol 70 % โดยสเปรย์หรือหยด Alcohol 70 % ลงบนผ้าสะอาดพอหมาดๆ เช็ดไปในทิศทางเดียวกัน เป็นประจำทุกวัน ตรวจสอบคุณภาพอาหารทันทีหลังได้รับจากร้านอาหาร เช่น ความสะอาด สภาพอาหารและไม่มีกลิ่นเน่าเสีย บรรจุอยู่ในภาชนะที่มีสภาพดี ไม่ชำรุด การปกปิดอาหาร ฉลากอาหาร เป็นต้น การส่งอาหารต้องแยกเก็บอาหารเป็นสัดส่วน ระหว่างอาหารปรุงสำเร็จ และเครื่องดื่ม และจัดส่งถึงมือผู้บริโภคให้เร็วที่สุด ไม่ควรเปิดกล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะ จนกว่าจะพบผู้สั่งซื้ออาหาร โดยก่อนเปิดกล่องใส่อาหารทุกครั้งควรทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ จัดส่งอาหารให้ผู้สั่งซื้อโดยใช้ภาชนะรองรับอาหารสำหรับวางอาหารให้ลูกค้าหรือจุดที่ผู้สั่งซื้อกำหนดมีวิธีการส่งอาหารแบบ Personal distancing โดยยืนห่างจากลูกค้าอย่างน้อย 1 เมตร และห้ามวางอาหารบนพื้นเพื่อลดความเสี่ยงการได้รับเชื้อโรคระหว่างให้บริการผู้สั่งซื้อ หรือในกรณีที่ไม่ได้ส่งอาหารให้กับผู้สั่งอาหารได้โดยตรง สถานที่หรือบริเวณที่จะส่งอาหารต้องไม่ทำให้อาหารเกิดการปนเปื้อน เช่น ไม่ส่งอาหารบริเวณใกล้ถังขยะเป็นต้น และภายหลังส่งอาหารและหลังการจับเงินให้ทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ถอดถุงมือผ้าในระหว่างการหยิบจับอาหาร เพราะอาจเกิดการปนปื้อนของฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่สะสมในถุงมือผ้า กรณีใส่ถุงมือผ้าในระหว่างการใช้ยานพาหนะขนส่งให้ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ก่อนการสวมใส่ทุกครั้ง และเปลี่ยนถุงมือทุก 4 ชั่วโมง ทำความสะอาดถุงมือด้วยน้ำยาทำความสะอาดทุกวัน

4. ผู้สั่งซื้ออาหาร/ผู้บริโภค ให้จัดเตรียมภาชนะรองรับอาหาร เช่น กล่องหรือโต๊ะแบบพับได้ และให้ยืนห่างจากผู้ขนส่งอาหารอย่างน้อย 1 เมตร ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ หลังการรับอาหารจากคนขนส่งอาหาร ก่อนรับประทานอาหาร สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยหากมีอาการป่วย ในระหว่างการรับอาหารจากผู้ขนส่งอาหาร ควรสั่งอาหารจานร้อน ปรุงสุกเสร็จใหม่ หลีกเลี่ยงการสั่งซื้ออาหารกลุ่มเสี่ยง เช่น อาหารประเภทเนื้อสัตว์หรือเครื่องในสัตว์ที่ปรุงไม่สุก อาหารที่เน่าเสียง่าย อาหารที่ปรุงด้วยนม กะทิ เป็นต้น กรณีอาหารเสี่ยงเช่น อาหารที่ใช้มือสัมผัสมาก ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ฯลฯ อาหารที่มีส่วนประกอบของ กะทิ นมควรนำไปอุ่นร้อนก่อนรับประทาน ตรวจสอบคุณภาพอาหาร เช่น ความสะอาด สภาพอาหารและไม่มีกลิ่นเน่าเสีย ความเหมาะสมของภาชนะบรรจุ การปกปิดอาหาร เป็นต้น เมื่อได้รับอาหารจากผู้ขนส่งอาหาร ควรจ่ายค่าบริการโดยวิธี E-Payment หรือเตรียมเงินสดให้พอดี

รวมสารพัดแอปช่วยให้ทำงานที่บ้านผ่านฉลุย

กระทรวงพลังงาน รวบรวม Online Application ที่น่าสนใจซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้วันทำงานที่บ้าน สะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดทั้งเวลาและพลังงาน แถมยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย รับกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด แยกประเภทการทำงาน หลักๆ ไว้ตามนี้

? วางแผนงาน : เป็นขั้นตอนเริ่มต้นของทุกๆ การทำงาน ที่จะทำให้การวางแผนงานของทีมงานเป็นระบบระเบียบมากขึ้น ช่วยวาง Timeline หรือแม้แต่ To do List ของแต่ละฝ่ายให้ชัดเจน อย่าง Asana, Trello, Google Calendar, Notion, Microsoft Team

? ประชุมออนไลน์ : ในการทำงาน ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องจัดให้มีการประชุมงานเพื่ออัพเดทความคืบหน้าการทำงานของแต่ละฝ่าย/แผนก ยิ่งในช่วงนี้ การทำงานเป็นทีมยังคงอยู่ แต่อาจจะต้องห่างกันสักพัก โดยหันมาใช้แอปพลิเคชันสำหรับการประชุมออนไลน์ ที่นอกจากจะช่วยลดการเดินทาง ลดการพบปะกันแล้ว ยังได้อรรถรส เห็นหน้า ได้ยินเสียงกันดังเดิม ผ่านแอปฯ เหล่านี้ Zoom, Google Meet, Microsoft Team, Slack

? รวบรวมข้อมูล : แอปพลิเคชันสำหรับเป็นแหล่งแชร์ไฟล์และจัดเก็บไฟล์โดยเฉพาะให้เป็นหมวดหมู่ ซึ่งข้อมูลของบางหน่วยงานอาจมีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณข้อมูลและการจำกัดการเข้าถึงเฉพาะบุคคลหรือเปิดให้เป็นสาธารณะ อย่าง Google Drive, Dropbox, One Drive, iCloud

? วางไอเดีย : แอปพลิเคชันสำหรับการสร้างเครือข่ายภายในขององค์กร เพื่อแชร์ไอเดียร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และร่วมกันแสดงความคิดเห็นได้ อย่าง Workplace, Microsoft One Note, Miro, Facebook Group, Line

? ส่งเอกสาร : ใช้บริการส่งเอกสารหรือส่งงานได้จาก Grab, Line Man, Lalamove, GET, Kerry ซึ่งบางท่านอาจคุ้นเคยกับแอปฯเหล่านี้พอสมควรกับการสั่งอาหารเดลิเวอรี่เป็นประจำอยู่แล้ว

? Screen Sharing : แอปฯ ที่มีฟีเจอร์ สำหรับ Screen Sharing ในบางโอกาสที่ต้องการนำเสนอผลงานบนหน้าจอมือถือแบบแชร์จอภาพ หรือสาธิตวิธีการทำงานและการใช้โปรแกรมต่างๆ ให้กับเพื่อนร่วมงานทราบ เพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นหน้าจอมือถือขณะ Present ได้อย่างเห็นภาพและเข้าใจมากยิ่งขึ้น อย่าง Lark, Team, Zoom, Join.me, Flock

ข้อดีของ Work from Home ที่หลายคนอาจกังวลว่าจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดหย่อนลง แต่หากเราหยิบเทคโนโลยีในยุค 4.0 มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็จะช่วยให้ลดความเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา จากการพบปะผู้คน ประหยัดทั้งเวลาเดินทาง แถมยังลดใช้พลังงานได้อีกทางหนึ่งด้วย แต่อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวและให้เวลาในการเรียนรู้แอปพลิเคชันเหล่านี้อีกสักนิด เพื่อให้เราเองและองค์กรพร้อมสำหรับการทำงานเสมอในช่วงฝ่าวิกฤติโควิดนี้นะครับ

ที่มา กระทรวงพลังงาน

ธอส.เพิ่มช่องทางใหม่จ่ายค่างวด สแกนคิวอาร์โค้ดที่เว็บไซต์

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ได้เพิ่มช่องทางใหม่ในการชำระเงินกู้ออนไลน์ได้ง่าย ๆ ที่ใดก็ได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้าน เพื่อร่วมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 

เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ www.ghbank.co.th จากนั้นเลือกระบบ “จ่ายค่าบ้านออนไลน์” และปฏิบัติตามขั้นตอน โดยระบุข้อมูล คือ เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และเลขที่บัญชีเงินกู้ จากนั้นระบบจะแสดงข้อมูลของลูกค้าและจำนวนเงินกู้ที่ต้องชำระ เมื่อลูกค้ายืนยันความถูกต้องของข้อมูล ระบบจะสร้าง QR Code สำหรับการชำระเงินกู้ในแต่ละครั้งให้ลูกค้าสามารถเลือกดาวน์โหลดหรือสแกนเพื่อชำระเงินกู้ของ ธอส. ได้ทันทีด้วย Mobile Application : GHB ALL ของ ธอส. หรือของธนาคารใดก็ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาของธนาคาร ทั้งนี้ สามารถใช้บริการระบบดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถทำธุรกรรมกับ ธอส.ด้วย Mobile Application : GHB ALL รวมทุกบริการ ธอส.ไว้ในมือคุณ อาทิ ชำระเงินกู้ ดูใบเสร็จ บริการโอนเงิน พร้อมเพย์ ดู statement ดูรายการทรัพย์ NPA ค้นหาที่ตั้งสาขา และลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วม “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้อีกด้วย

สรรพากรยืดเวลายื่นภาษีบุคคลถึง 31 ส.ค.

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมสรรพากรยึดถือความปลอดภัยของผู้เสียภาษี รวมถึงเจ้าหน้าที่สรรพากรเองเป็นสำคัญ เพื่อคลายความกังวลและภาระการเดินทางของผู้เสียภาษีจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ เพื่อมายื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและชำระภาษี ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 จึงได้มีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90/91) ปีภาษี 2562 ไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 แล้ว

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร

สำนักงานสรรพากรพื้นที่ และสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทั่วประเทศ ยังคงเปิดให้บริการอยู่ตามปกติ อย่างไรก็ตามกรมสรรพากรมีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (Social Distancting) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ผู้เสียภาษีอาจจะไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางมาติดต่อขอรับบริการ

จึงขอความร่วมมือและเชิญชวนให้ผู้เสียภาษีทุกท่านใช้บริการภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร เช่น การยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีผ่านระบบ e-Filing หรือ Mobile Application RD Smart Tax แทนการมายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาด้วยตนเอง

ออมสิน ออกเงินกู้ฉุกเฉิน ช่วยผู้มีอาชีพอิสระ/ผู้มีรายได้ประจำโดนผลกระทบไวรัสโควิด-19

ยื่นลงทะเบียนใช้บริการผ่านเว็บไซต์ธนาคารฯ www.gsb.or.th เท่านั้น

ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดให้บริการ สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงินกู้สูงสุด 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.10% ต่อเดือน (Flat Rate) ผ่อนชำระคืนนานถึง 2 ปี โดยไม่ต้องชำระเงินกู้ 6 งวดแรก ที่สำคัญคือไม่ต้องใช้หลักประกันใดๆ คุณสมบัติผู้กู้มีอายุ 20 ปีขึ้นไป สัญชาติไทย เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีรายได้เดือนละไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เช่น พ่อค้าแม่ค้า คนขับรถโดยสารแท็กซี่-สามล้อ มัคคุเทศก์ เป็นต้น มีถิ่นที่อยู่อาศัยแน่นอน สามารถติดต่อได้

ขณะเดียวกัน ธนาคารออมสินได้สนับสนุนโครงการสินเชื่อฉุกเฉิน และโครงการสินเชื่อพิเศษเพิ่มเติม ตามมติเพื่อเสริมสภาพคล่องชั่วคราวในการดำรงชีวิตแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วยการเปิดให้บริการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงินกู้สูงสุด 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน (Flat Rate) ให้ผ่อนชำระคืนนานถึง 3 ปี โดยการค้ำประกันสามารถใข้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ได้ เพียงมีอายุ 20 ปีขึ้นไป สัญชาติไทย เป็นผู้มีรายได้ประจำแต่รายได้ลดลงหรือขาดรายได้เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และภัยอื่นๆ มีถิ่นที่อยู่อาศัยแน่นอน สามารถติดต่อได้

ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสได้จากการพบปะกันของคนจำนวนมากที่สาขา ประชาชนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวจึงไม่จำเป็นต้องเดินทางไปติดต่อที่สาขา เพราะธนาคารออมสินอำนวยความสะดวกด้วยการเปิดให้ยื่นลงทะเบียนใช้บริการสินเชื่อนี้ผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป เพียงมีโทรศัพท์มือถือที่พร้อมใช้งานเปิดเว็บไซต์ธนาคารออมสินหรือมีเครื่องคอมพิวเตอร์

บีทีเอสให้ผู้โดยสารที่เที่ยวเดินทางหมดอายุจากผลกระทบโควิด-19 เติมเที่ยวเดินทางคืน

​จากสถานการณ์แพร่ระบาดของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลกระทบต่อการเดินทางของผู้ใช้บริการ

บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง (จำกัด) ผู้บริหารกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ทราบถึงผลกระทบดังกล่าวนี้

อีกทั้ง ประกาศกรุงเทพมหานคร และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 1) ทำให้เกิดผลกระทบต่อการเดินทาง และการใช้บัตรโดยสารประเภทเติมเที่ยวเดินทาง 30 วัน ของผู้โดยสาร

ขณะนี้ บริษัทได้ดำเนินการออกมาตรการดูแลผู้โดยสารที่เติมเที่ยวเดินทางดังกล่าว ด้วยการคืนเที่ยวเดินทาง ให้ผู้โดยสารที่เติมเที่ยวเดินทาง ระหว่าง วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 ที่ยังมีเที่ยวเดินทางคงเหลือ และหมดอายุภายในวันที่ 30 เมษายน 2563 สามารถนำบัตรโดยสารติดต่อขอรับสิทธิ์การคืนเที่ยวเดินทางที่หมดอายุตามจริง เมื่อประสงค์จะเดินทาง ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี

โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 หรือภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาด จะคลี่คลายตามประกาศจากทางรัฐบาล ทั้งนี้เที่ยวเดินทางที่ได้รับสิทธิ์นั้น จะมีอายุ 30 วัน นับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้เดินทาง

เตือนปชช.ลงทะเบียนเว็บเราไม่ทิ้งกัน ระวังเว็บปลอมและพวกรับจ้างลงทะเบียน

ธนาคารกรุงไทย เตือนประชาชน ระวังเว็บไซต์ปลอมและมิจฉาชีพรับจ้างลงทะเบียนเพื่อใช้ในทางทุจริต
ผู้ลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนด้วยตนเองได้ที่ เว็บไซต์ www. เราไม่ทิ้งกัน .com เท่านั้น ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เพื่อความปลอดภัย พิมพ์ชื่อเว็บใหม่และตรวจสอบตัวสะกดให้ถูกต้อง การลงทะเบียนสามารถทำได้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
หากพบปัญหาหรือไม่สามารถลงทะเบียนได้ สามารถขอคำแนะนำได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2 111 1144