Home Blog Page 2

AIS บุกมหา’ลัย เอาใจวัยทีน สร้างสีสันรับเปิดเทอม เสิร์ฟเน็ตแรงพร้อมแจกไอติมอุ่นใจ ใช้แค่ 1 พอยท์ กับแคมเปญ Freshy Fun Fair

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ร่วมสร้างสีสันต้อนรับนิสิตและนักศึกษาทั่วประเทศเข้าสู่ภาคการศึกษาใหม่ ด้วยการสนับสนุนโครงข่ายสื่อสารและสัญญาณอินเทอร์เน็ต AIS 5G ที่ครอบคลุมพื้นที่การจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ในมหาวิทยาลัยต่างๆ อย่างทั่วถึง เพื่อรองรับการใช้งานของนิสิต นักศึกษา และบุคลากร ให้เชื่อมต่อโลกดิจิทัลได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะอัปโหลด โพสต์ หรือแชร์โมเมนต์สนุกๆ ก็ไม่มีสะดุดทุกคอนเทนต์

พร้อมกันนี้ AIS ยังได้จัดเต็มความสุขสุดฟินต้อนรับเปิดเทอม กับแคมเปญ “Freshy Fun Fair” มอบสิทธิพิเศษให้น้องๆ เฟรชชี่ ใช้ เอไอเอส พอยท์ เพียง  1 คะแนน แลกรับ “ไอศกรีมอุ่นใจ” ได้ง่ายๆ ผ่านแอป myAIS เพื่อเติมเต็มความสดชื่นในช่วงเปิดเทอม โดยจะเดินหน้ายกทัพความฟินในกิจกรรมรับน้องตามมหาวิทยาลัยต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สะท้อนการเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงและเข้าใจคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง พร้อมตอกย้ำแนวคิด “ความสุขมีได้ทุก Gen” ที่มุ่งสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าทุกเจเนอเรชัน

AIS ขอร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนในก้าวแรกของชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย พร้อมส่งต่อความอุ่นใจในทุกการเชื่อมต่อ และเป็นกำลังใจให้น้องๆ สนุกกับทุกช่วงเวลา ทั้งด้านการเรียน เพื่อนใหม่ และการเติบโตในเส้นทางของตัวเอง

เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 2 รางวัลจากเวที Asia Pacific Enterprise Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นองค์กรผู้นำและความเป็นเลิศต่อเนื่องปีที่ 5

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจประกันชีวิตของไทยในเวทีสากล คว้า 2 รางวัลอันทรงเกียรติระดับเอเชีย จากงาน The Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2025 จัดโดย Enterprise Asia ได้แก่

· รางวัล Master Entrepreneur Award ประเภทผู้นำองค์กรดีเด่นในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน ปีที่ 5  ที่มอบแด่ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารซึ่งเป็นผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำยุคใหม่ที่สร้างความศรัทธาและความไว้วางใจจากทุกภาคส่วน ผ่านการขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ หลักธรรมาภิบาล และการบริหารที่โปร่งใส ควบคู่กับการพลิกโฉมองค์กรด้วยนวัตกรรมและความเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง จนสามารถสร้าง “มาตรฐานใหม่แห่งความเป็นเลิศ” ให้แก่วงการประกันชีวิตไทย และยกระดับเป็นต้นแบบของผู้นำธุรกิจในเวทีเอเชีย รางวัลนี้จึงมิใช่เพียงเกียรติยศส่วนบุคคล แต่คือสัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่นและบรรทัดฐานใหม่ที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค

· รางวัล Corporate Excellence Award ประเภทความเป็นเลิศทางธุรกิจองค์กร ต่อเนื่อง  เป็นปีที่ 5  ซึ่งถือเป็นอีกความสำคัญที่พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพในทุกมิติขององค์กร ทั้งด้านการบริหารจัดการทางการเงินที่มีเสถียรภาพ การส่งมอบนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการยืนหยัดในพันธกิจด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รางวัลนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า เมืองไทยประกันชีวิตมิได้มุ่งเพียงการเติบโตเชิงธุรกิจ หากแต่เป็นองค์กรที่มุ่งสร้างความยั่งยืน โดยมีแนวทาง ESG เป็นหัวใจสำคัญ จนสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และสร้างความสุขอย่างเป็นรูปธรรมในระดับสังคมโดยรวม

สาระ ล่ำซำ

ทั้งนี้ความต่อเนื่องและความมั่นคงในการครองรางวัลติดต่อกันถึง 5 ปี นับเป็นเครื่องพิสูจน์และยืนยันถึงความสำเร็จของเมืองไทยประกันชีวิต ซึ่งเกิดจากการวางรากฐานเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน และการสร้างวัฒนธรรมที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ความสำเร็จนี้มิใช่เพียงผลลัพธ์จากโครงการหรือแคมเปญระยะสั้น แต่คือผลสะท้อนของวิสัยทัศน์ที่มั่นคง การขับเคลื่อนองค์กร อย่างต่อเนื่อง และการยืนหยัดบนเส้นทางแห่งความเป็นเลิศในทุกมิติ จนสามารถสร้างผลงานที่จับต้องได้ และเป็นแบบอย่างที่น่าภาคภูมิใจในระดับสากล

ตลอดจนองค์กรยังมุ่งพัฒนาดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน อย่างจริงจัง ด้วยการนำเทคโนโลยี AI  Data Analytics และบริการแบบ Straight-Through Processing (STP) มาสร้างมาตรฐานใหม่ของการให้บริการที่รวดเร็ว โปร่งใส และตรงใจลูกค้า ขณะเดียวกันก็ไม่ละทิ้งการดำเนินโครงการเพื่อสังคม ทั้งในด้านการศึกษา สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางอย่างต่อเนื่อง

โดยมี นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  เป็นผู้รับรางวัล จาก นายพงษ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ ดร.ฟง ชาน ออน ประธานองค์กร Enterprise Asia ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเตล กรุงเทพฯ   โดยมีคณะผู้บริหารเมืองไทยประกันชีวิตร่วมเป็นเกียรติในพิธี

เมืองไทยประกันชีวิตยังคงเดินหน้าสานสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างไม่หยุดยั้ง และสร้างความสมดุลระหว่างธุรกิจ ลูกค้า และสังคม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรในการก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน 

เปิดตัว “AIS Pro” สุดยอดผู้ช่วยอัจฉริยะดูแลสมาร์ทโฟนครบวงจรในทุกสาขาทั่วประเทศ

พร้อมจัดงานยกระดับความเชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ Apple เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับทุกดีไวซ์

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ตอกย้ำตัวจริงด้านการสร้างสุดยอดประสบการณ์และการดูแลลูกค้า เดินหน้ายกระดับพนักงานบริการ สู่ “AIS Pro” ทีมกูรูผู้ช่วยที่มีความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้านสมาร์ทโฟน ที่พร้อมดูแลให้คำแนะนำอย่างครบครัน พร้อมเชื่อมต่อทุกบริการและฟีเจอร์ใหม่ๆ บนอุปกรณ์ Apple อย่าง iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch

เอไอเอส ได้เทรนพนักงาน AIS Pro กว่า 300 คน และประจำกว่า 150 สาขาทั่วประเทศ ที่พร้อมให้บริการและให้คำแนะนำลูกค้า ตั้งแต่การใช้งาน จนถึงการเชื่อมต่อ Ecosystem อย่างไร้รอยต่อ ตอกย้ำว่าเอไอเอสไม่ได้เพียงแค่ขายสินค้า แต่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพนักงาน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ระดับ Global ที่ลูกค้าวางใจได้จริง และเพื่อพลิกโฉม AIS Shop จากศูนย์บริการจำหน่ายสินค้า สู่ Digital Lifestyle Destination  

ด้วยการยกระดับการทำงาน ผ่านแนวคิด 5 BEST Experience ที่ครอบคลุมทั้ง Best Product ผลิตภัณฑ์ล้ำหน้าพร้อมเทคโนโลยีและดีไซน์ระดับพรีเมียม, Best Package แพ็กเกจสุดคุ้มที่มอบความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์หลากหลาย, Best Privilege เอกสิทธิ์เฉพาะที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ, Best Process กระบวนการที่รวดเร็วและไร้รอยต่อ และ Best People ทีมงานคุณภาพที่พร้อมให้คำแนะนำ ดูแล และบริการอย่างมืออาชีพ

เพราะการเลือกซื้อมือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช่เพียงการเลือกซื้อสินค้า แต่คือการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ทีม AIS Pro จึงแสดงถึงความพร้อมของเอไอเอสในการส่งมอบบริการระดับ Global ที่สร้างความเชื่อมั่น ไว้วางใจได้ และพร้อมรองรับฐานลูกค้า Apple

ธปท.เผยคนไทยเป็นหนี้ 38% กว่าครึ่งเป็นกลุ่มอายุ 22-29 ปี และมีปัญหาชำระหนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานไทยแลนด์โฟกัส 2025 ในหัวข้อ “หนี้ครัวเรือนไทย: ความเปราะบางที่ต้องจับตา” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เปิดเผยวตัวเลขคนไทยเป็นหนี้ คิดเป็น 38% ของประชากรทั้งหมด และกว่า50% อยู่ในกลุ่มอายุ ระหว่าง 22-29ปี นอกจากนี้ ยังพบว่า คนกลุ่มนี้มีจำนวน 1 ใน 4 ที่กำลังมีปัญหาในการชำระ

ดร. รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า สำหรับหนี้ครัวเรือน ซึ่งเป็นปัญหาหลักของประเทศไทย พบว่ากลุ่มที่มีหนี้ครัวเรือนสูงสุดคือ กลุ่มคนที่เริ่มทำงาน นอกจากนี้ แม้แต่กลุ่มวัยเกษียณก็ยังมีหนี้สิน โดยผู้ที่มีหนี้สินของประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เป็นหนี้ที่เกิดจากการบริโภค ไม่ใช่หนี้จากการทำธุรกิจ

จากการทำวิจัยพบว่า ประชากร 38% ของประเทศมีหนี้ครัวเรือน ซึ่งตัวเลขนี้เป็นข้อมูลเฉพาะหนี้ในระบบเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่าคนไทยเป็นหนี้เฉลี่ยประมาณ 5 แสนบาทต่อคน และหากนำหนี้นอกระบบมาคิดด้วย ตัวเลขก็ต้องสูงขึ้นกว่านี้มาก

โดยกลุ่มคนเริ่มทำงาน หรือกลุ่มอายุ 22-29 ปี พบว่า มีจำนวนถึง 50% ที่มีหนี้ครัวเรือน และ 1 ใน 4 ของคนที่เป็นหนี้กำลังประสบปัญหาการชำระหนี้ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการที่คนกลุ่มนี้ขาดความรู้ด้านการจัดการรายได้ และไม่มีข้อมูลที่เพียงพอในการควบคุมการใช้จ่ายหรือขาดความสามารถในการจัดการทางการเงิน

ธปท. จึงพยายามช่วยด้วยการให้ข้อมูลเรื่องหนี้ครัวเรือนมากขึ้น รวมถึงการเข้าถึงกลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลือทางการเงิน รวมถึงผู้ให้ยืมในการให้ข้อมูลที่โปร่งใสกับลูกหนี้มากขึ้น รวมถึงช่วยด้านข้อมูลในการจัดการทางการเงินเมื่อมีหนี้ครัวเรือน

ดร. รุ่ง กล่าวอีกว่า ปัญหาสำคัญของหนี้ครัวเรือน คือเมื่อลูกหนี้มีหนี้ในระบบ แล้วไม่สามารถชำระหนี้ได้ จึงต้องสร้างหนี้นอกระบบ จนไม่สามารถชำระหนี้ได้ทั้งในและนอกระบบ ทำให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนไม่ได้รับการแก้ไข

ทั้งนี้ อุปสรรคใหญ่ในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน คือการไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องของหนี้นอกระบบ ทำให้ไม่ทราบจำนวนหนี้ที่แท้จริง และไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนในภาพรวมได้ ทางธปท. จึงคิดว่าทางแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนคือการนำหนี้นอกระบบเข้ามาเป็นหนี้ในระบบ ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายที่สำคัญ เพราะการจะทำเช่นนี้ได้ จำเป็นต้องมีการแก้ไขกฎเกณฑ์และข้อกฎหมายหลายประเด็น เพื่อทำให้หนี้นอกระบบสามารถเข้ามาเป็นหนี้ในระบบ

NBA และ AIS ประกาศความร่วมมือระยะยาว ถ่ายทอดสดการแข่งขันในประเทศไทยสตรีมมิงแพลตฟอร์ม AIS PLAY เตรียมถ่ายทอดสดการแข่งขัน NBA ทุกแมตช์สำคัญ เริ่มฤดูกาล 2025–26


The National Basketball Association (NBA) และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) ผู้ให้บริการดิจิทัลและผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ประกาศความร่วมมือระยะยาวในการถ่ายทอดการแข่งขัน NBA ผ่าน AIS PLAY บริการวิดีโอสตรีมมิงของ AIS โดยจะนำเสนอการแข่งขัน NBA ครอบคลุมทุกแมตช์สำคัญ ให้แฟนบาสเกตบอล ชาวไทยได้รับชม เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2025-26 ซึ่งจะเปิดฉากในวันอังคารที่ 21 ตุลาคมนี้ ตามเวลาสหรัฐอเมริกา

AIS PLAY เตรียมเปิดช่องกีฬาเฉพาะกิจ มอบสิทธิ์ให้ลูกค้าที่ใช้บริการแพ็กเกจได้รับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขัน NBA ภายใต้ความร่วมมือกับ บริษัท ไมโม่เทค จำกัด บริษัทในเครือ เอไอเอส โดยจะถ่ายทอดสดการแข่งขันทั้งเกมในฤดูกาลปกติ, รอบเพลย์ออฟ, รอบชิงแชมป์สาย (Conference Finals), NBA All-Star และ NBA Draft เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2026-27 เป็นต้นไป และจะถ่ายทอดสดรอบชิงชนะเลิศ NBA (NBA Finals) แบบปีเว้นปี

แฟนๆ บาสเกตบอลชาวไทยสามารถรับชมการแข่งขันและรายการจาก NBA ผ่าน AIS PLAY ได้โดยการสมัครใช้บริการและดาวน์โหลดแอป AIS PLAY ผ่าน App Store และ Google Play บนอุปกรณ์สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต และสมาร์ตทีวี สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจการสมัครสมาชิกและการรับชม สามารถติดตามได้ทางช่องทางประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการของ AIS PLAY

นายปรัธนา ลีลพนัง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านปฏิบัติการ AIS กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ NBA ลีกบาสเกตบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมสูงสุดของโลก ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ AIS PLAY แพลตฟอร์มดิจิทัลที่รวมความบันเทิงและกีฬาครบวงจร นอกจากจะเติมเต็มความหลากหลายของคอนเทนต์ระดับโลกแล้ว ยังทำให้แฟนบาสเกตบอลชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์ NBA อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ผ่านโครงข่ายอัจฉริยะทั้งมือถือและเน็ตบ้านคุณภาพสูง เพื่อขยายฐานแฟน NBA และสนับสนุนการเติบโตของกีฬาบาสเกตบอลในประเทศไทย”

เวย์น ชาง (Wayne Chang) กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย NBA กล่าวว่า “AIS มีวิสัยทัศน์ร่วมกับเราในการยกระดับวงการกีฬาบาสเกตบอลและ NBA ในประเทศไทย ด้วยศักยภาพเครือข่ายที่ครอบคลุมของ AIS เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยขยายการเข้าถึงการแข่งขัน พร้อมส่งมอบประสบการณ์การรับชมที่น่าสนใจที่จะทำให้แฟนๆ ชาวไทยได้ใกล้ชิดกับทีมและผู้เล่น NBA ที่พวกเขาชื่นชอบมากยิ่งขึ้น”

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NBA ได้ที่ NBA.com, ดาวน์โหลด NBA App และติดตาม NBA บน Facebook, X, Instagram และ TikTok.

AIS 5G ชวนคนไทย “บริจาคด้วยใจ ได้เบอร์มงคลพลิกชีวิต” สร้างบุญพร้อมเติมพลังบวกให้ชีวิตรับฟรี! ซิมเบอร์มงคล โดยผู้คิดค้นศาสตร์พลังตัวเลข อ.นิติกฤตย์ กิตติศรีวรนันท์

AIS 5G เดินหน้าสานต่อบทบาทองค์กรแห่งการให้ เปิดตัวแคมเปญ “บริจาคด้วยใจ ได้เบอร์มงคลพลิกชีวิต” ชวนคนไทยร่วมสร้างสังคมแห่งการให้ ร่วมบริจาคเงินให้แก่ 4 โรงพยาบาลและมูลนิธิที่ร่วมโครงการ ได้แก่ มูลนิธิรามาธิบดีฯ, มูลนิธิโรงพยาบาลเลิดสิน กองทุนเพื่อผู้ป่วยมะเร็งกระดูก, มูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ และ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โครงการพัฒนาศูนย์มะเร็งแบบบูรณาการ เพื่อส่งต่อพลังแห่งการช่วยเหลือไปยังผู้ป่วยยากไร้ กลุ่มเปราะบาง และความต้องการทางการแพทย์ในเชิงลึก พร้อมมอบของขวัญสุดพิเศษ เสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้บริจาคถึง 2 ต่อ ประกอบด้วย

  • มอบซิมเบอร์มงคลพลิกชีวิต มูลค่า 199 บาทฟรี จำนวน 1 ซิม ต่อ 1 เลขหมายบัตรประชาชน โดยมีให้เลือก 3 หมวด ได้แก่ ซิมเบอร์มงคล พลิกชีวิต “พลังความสำเร็จ”, ซิมเบอร์มงคล พลิกชีวิต “เลขกวักทรัพย์” และ ซิมเบอร์มงคล
    พลิกชีวิต “โชคลาภ เงินก้อนใหญ่” โดยมีเงื่อนไขแพ็กเกจรายเดือนและระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องตามที่กำหนดของแต่ละหมวดซิมเบอร์มงคล
  • พร้อมสิทธิ์วิเคราะห์เบอร์เฉพาะบุคคล ฟรี 1 ครั้ง จากทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ตัวเลขมงคลแท้ ช่วยเสริมพลังชีวิตทั้งในด้านความก้าวหน้าในการงาน ความมั่งคั่งทางการเงิน และความมั่นคงในชีวิต

ผู้ที่สนใจสามารถร่วมโครงการได้ง่ายๆ เพียงบริจาคเงินขั้นต่ำ 100 บาท ให้แก่โรงพยาบาลหรือมูลนิธิที่ร่วมโครงการ
ตามช่องทางบริจาคของมูลนิธิโดยตรง จากนั้นแสดงหลักฐานการบริจาคเพื่อรับซิมเบอร์มงคลพลิกชีวิตและนัดหมายปรึกษาเบอร์เฉพาะบุคคลได้ ผ่านทาง LINE ID: @decoder159 (มี @ ข้างหน้า) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน 2568 นี้  ร่วมบริจาควันนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุก “การให้” สร้าง “การเปลี่ยนแปลง” อย่างแท้จริง

เมืองไทยสไมล์คลับ จัดกิจกรรม Exclusive Fine Dining at Cross มอบประสบการณ์แห่งความสุขและรอยยิ้ม ที่สุดแห่งความประทับใจ

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยเมืองไทยสไมล์คลับ คัดสรรสิทธิพิเศษและกิจกรรมที่หลากหลายให้ตอบโจทย์ทุกช่วงอายุตอบรับทุก Lifestyle ล่าสุดจัดกิจกรรม “Muang Thai Smile Exclusive Fine Dining at Cross” หนึ่งในร้านอาหารที่ได้รับความนิยมและมาแรงมากในปีนี้ การันตีรางวัล Tatler Best 20 Restaurant 2025

บรรยากาศในวันงานเต็มไปด้วยการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยนางสาวนิรัตน์ บูชาสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และเชฟกุณ-กุณฑิกา ปลื้มธีรวงศ์ เจ้าของร้าน Cross ผู้รังสรรค์ประสบการณ์ Fine Dining อาหารจีนสไตล์ฝรั่งเศสกับ 10 เมนูคอร์สพิเศษ ให้สมาชิกฯ ได้    ลิ้มรสอย่างเต็มอิ่มตลอดสองชั่วโมงเต็ม

เริ่มต้นคอร์สด้วยการเสิร์ฟ Welcome Drink ชาดอกเก็กฮวย จากเทือกเขาคุนหลุนประเทศจีน ต่อด้วยออเดิร์ฟ  ที่ไม่ธรรมดาอย่าง ไข่ตุ๋นหอยเชลล์ เผือกทอดไส้หมู Iberico ซอส X.O. พร้อมพาสมาชิกฯ เข้าสู่จานหลักวัตถุดิบพรีเมียมกับเทคนิคที่เป็นเอกลักษณ์ทุกจาน อาทิ สลัดปูม้าเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งและคาเวียร์ ตับห่านซอสเปรี้ยวหวาน  ซุปไก่กระเพาะปลาสด กุ้งล็อบเตอร์ ซอส Bisque  ปลาเต๋าเต้ยต้มบ๊วย เส้นคาเปลลินี่ เป๋าฮื้อแห้ง ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่าง รังนก ไอศกรีมมะพร้าว เรียกได้ว่าครบรสทั้งคาวหวานพร้อมรับความประทับใจกลับบ้านกันไปอย่างเต็มอิ่ม

ทั้งนี้ สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ยังสามารถติดตามกิจกรรมรวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่เมืองไทยสไมล์คลับคัดสรรมาพิเศษแบบครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ และตอบโจทย์ความหลากหลายทุกความต้องการเพิ่มเติม ได้ที่ MTL Click Application สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android หรือเว็บไซต์ www.muangthai.co.th ตลอดจนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1766 กด 4 เมืองไทยประกันชีวิต หรือศูนย์บริการลูกค้าทั่วประเทศ

AIS หนุน กอช. เปิดซื้อหวยเกษียณ ผ่านแอป myAIS ออมง่าย ลุ้นล้านทุกศุกร์ เริ่มไตรมาส 4 นี้

เอไอเอส ร่วมกับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เดินหน้ายกระดับการออมของคนไทยสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ เปิดช่องทางซื้อ “สลาก กอช.” หรือ “หวยเกษียณ” ผ่านแอป myAIS พลิกโฉมการออมให้เข้าถึงง่าย ปลอดภัย และสนุกยิ่งขึ้น และได้ยังลุ้นรางวัลใหญ่ 1 ล้านบาททุกสัปดาห์ นับเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ไม่เพียงช่วยสร้างแรงจูงใจใหม่ในการออม แต่ยังวางรากฐานความมั่นคงทางการเงินระยะยาวแก่ประชาชน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง พร้อมตอกย้ำบทบาทของแอป myAIS ในฐานะศูนย์กลางทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะในด้านการเงินดิจิทัล ที่รวมทุกฟังก์ชันไว้ในที่เดียว ตั้งแต่การสมัครสมาชิก การเช็กยอด ไปจนถึงการส่งเงินออม

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ โดยมี ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ และนายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานรัฐกิจสัมพันธ์ AIS ร่วมกันประกาศความพร้อมในการเปิดจำหน่าย สลาก กอช. หรือ หวยเกษียณ ผ่านแอปพลิเคชัน myAIS ในไตรมาส 4 ปีนี้

เปิดตัว “TrueMoney – AIS – ShopeePay” ขยายช่องทางขายหวยเกษียณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ที่กระทรวงการคลัง กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จัดแถลงข่าวเปิดตัวกับ 3 แพลตฟอร์มดิจิทัลชั้นนำของไทย ได้แก่ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อยกระดับการออมของคนไทยเข้าสู่โลกดิจิทัลเต็มรูปแบบ พร้อมทำให้การซื้อ “สลาก กอช.” หรือ “หวยเกษียณ” ผ่านมือถืออย่างไร้รอยต่อ

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้ทำให้การออมของประชาชนเข้าถึงง่ายและทันสมัยยิ่งขึ้น “หวยเกษียณ” ไม่ใช่แค่ลุ้นโชค แต่เป็นการออมที่เงินต้นไม่หาย และยังได้รับผลประโยชน์เพิ่มในอนาคต เรานำเทคโนโลยีมาทำให้คนไทยทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือชนบท ออมง่ายเพียงปลายนิ้ว ยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งถึงเป้าหมายเร็วผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม

วันนี้เราต้องการสร้าง โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลที่เชื่อม E-Payment กับ Financial Inclusion เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการทางการเงิน ลดความเหลื่อมล้ำ และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน ความร่วมมือนี้ยังช่วยให้คนไทยเรียนรู้การออมตั้งแต่วันนี้เพื่ออนาคตที่มั่นคง”

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า “ล่าสุด กอช. ได้ออกแบบนวัตกรรมการออมใหม่ “สลาก กอช.” หรือ “หวยเกษียณ” เพื่อให้คนไทยทุกกลุ่มอาชีพมีโอกาสออมเงิน พร้อมลุ้นรางวัลล้านทุกสัปดาห์ ทุกบาทที่ซื้อสลากจะกลายเป็นเงินออมทั้งหมด ไม่ว่าถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ หวยเกษียณ ยังถูกออกแบบให้เข้าถึงง่าย สามารถซื้อผ่านแอปพลิเคชัน กอช., TrueMoney, myAIS และShopeePay ทำให้การออมกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล”

นายรัชชานนท์ ชินพัณณ์ หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ทรูมันนี่มีความตั้งใจที่จะเปิดตัว “หวยเกษียณ” ร่วมกับ กอช. ในเฟสแรก โดยจะเปิดให้ลูกค้าสามารถสมัครเปิดบัญชีเพื่อรอซื้อสลากได้ตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้ได้ออกแบบ User Journey โดยคำนึงถึงความสะดวกและความรวดเร็วในการสมัครใช้งานเป็นหลัก นอกจากนี้ ทรูมันนี่ยังมีแผนจัดทำ แคมเปญโปรโมชันเพื่อส่งเสริมการออม ควบคู่ไปกับการสื่อสารสร้างการรับรู้ รวมถึง แผนความร่วมมือกับ กอช. ในการทำสื่อออนไลน์และแคมเปญต่างๆ อย่างต่อเนื่องในอนาคต อีกทั้งยังเตรียมเดินหน้าพัฒนา ฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในระยะยาว ที่ผ่านมา ทรูมันนี่ได้ให้บริการ กอช. แก่กลุ่มนักเรียนและผู้ประกอบอาชีพอิสระมาตั้งแต่ปลายปี 2566 จนถึงปัจจุบันมียอดเงินฝากรวมกว่า 120 ล้านบาท โดยในปัจจุบันยอดสมัครบัญชีใหม่ช่องทางออนไลน์ของ กอช. มากกว่า 50% มาจากทรูมันนี่ เรารู้สึกยินดีที่วันนี้มีผู้ให้บริการรายใหม่ๆ มาร่วมขับเคลื่อนภารกิจสำคัญนี้ไปด้วยกัน เพื่อทำให้คนไทยทุกคนสามารถเริ่มออมได้ง่ายขึ้น และเตรียมพร้อมสู่ชีวิตหลังเกษียณที่มั่นคง”

นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานรัฐกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “เอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายอัจฉริยะ เรามุ่งยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทย ควบคู่กับการสนับสนุนการเข้าถึงบริการภาครัฐ โดยเฉพาะการออมเงินกับ กอช. ที่เราได้ร่วมขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางการสมัครสมาชิก เช็กยอด และส่งเงินออมได้สะดวกบนสมาร์ทโฟน ผ่านแอปพลิเคชัน myAIS ทำให้การออมเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา และช่วยสร้างหลักประกันทางการเงินที่มั่นคงในระยะยาวเพื่อสอดรับกับยุคดิจิทัลไลฟ์สไตล์ และการเสริมสร้าง Digital Financial Literacy เอไอเอสจึงพัฒนา myAIS ให้เป็นศูนย์กลางด้านการเงินดิจิทัล พร้อมต่อยอดสู่บริการใหม่อย่างการจำหน่าย สลาก กอช. หรือ หวยเกษียณ ในเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่พลิกพฤติกรรมการลุ้นโชคของคนไทย ให้กลายเป็นแรงจูงใจในการออมอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน”

นายศุภวิทย์ หงส์อมรสิน กรรมการผู้จัดการบริษัท ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“ShopeePay รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับ กอช. และพันธมิตรดิจิทัลชั้นนำ เพื่อขยายช่องทางการออมของคนไทยผ่านโครงการสลาก กอช. เราเชื่อว่าการออมควรเป็นเรื่องง่าย เข้าถึงได้ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตยุคดิจิทัล ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออมเงินได้อย่างมั่นใจ พร้อมทั้งมีโอกาสลุ้นรางวัลใหญ่ทุกสัปดาห์ เรามุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีของ ShopeePay เชื่อมต่อบริการทางการเงินกับผู้คนทุกกลุ่ม เพื่อสร้างโอกาสที่เท่าเทียมและสนับสนุนการออมระยะยาวอย่างยั่งยืน เราเชื่อว่า หวยเกษียณ จะไม่เพียงทำให้การออมสนุกขึ้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับคนไทยทุกคน”

โครงการ “หวยเกษียณ” ศุกร์ได้ลุ้นสุขได้ออม มีรายละเอียดดังนี้

1. เป็นสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท เพื่อขายให้กับประชาชนทุกคนที่มีสัญชาติไทย และมีอายุ 15 ปี ขึ้นไป และซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อเดือน

2. สามารถซื้อหวยเกษียณได้ทุกวัน ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันทีผ่านพร้อมเพย์ ซึ่งสามารถนำออกมาใช้ได้เลย โดยที่เงินค่าซื้อสลากทั้งหมดถูกเก็บเป็นเงินออมในบัญชีส่วนตัวของตนเอง แม้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม

3. รางวัลของ “ทุกวันศุกร์” กำหนดดังนี้

3.1. รางวัลที่ 1 (เป็นเลข 6 หลัก) รางวัล 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล

3.2. รางวัลที่ 2 (เป็นเลขหน้า 3 ตัว และเลขท้าย 3 ตัว) รางวัล 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล

3.3. รางวัลพิเศษ (แจ็คพอต) 1 รางวัล (ถ้ามี)

4. หากในงวดใดที่รางวัลออกไม่หมด รางวัลที่ออกไม่หมดนั้นจะถูกทบยอดเป็นรางวัลพิเศษ (แจ็คพอต) ในงวดถัดไปทั้งหมดทันที

5. “เงินค่าซื้อสลากทั้งหมดจะเป็นเงินออมของผู้ซื้อสลาก” ซึ่งจะนำเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. และเมื่อผู้ออมอายุครบ 60 ปี จะคืนเงินทั้งหมดทุกบาท ทุกสตางค์ที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิตบวกกับผลตอบแทนการลงทุนให้กับผู้ออม

6. ประชาชนที่มีอายุเกิน 60 ปี ซื้อได้ด้วยด้วย แต่ต้องออมไว้ 5 ปี หลังจากวันที่ซื้อครั้งแรก และสามารถซื้อได้ไม่จำกัดรอบ ทุกรอบต้องออมไว้ 5 ปี

7. หากเสียชีวิต เงินออมที่ซื้อหวยเกษียณทั้งหมดจะตกสู่ทายาทตามกฎหมายหรือบุคคลที่ผู้ซื้อระบุไว้

เมืองไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล Techsauce Awards 2025 ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำการเปลี่ยนแปลง พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นองค์กรชั้นนำด้านนวัตกรรม ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในโลกยุคใหม่ บริษัทฯ ได้ยกระดับแนวคิดด้านการดำเนินธุรกิจไปสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอย่างแท้จริง โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีตอบสนองความต้องการลูกค้า และการสร้างประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า ผ่านการบริหารจัดการแบบมีผู้เอาประกันภัยเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric Innovation) อย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกมิติของการให้บริการ การประยุกต์ใช้ AI และ Data Analytics เพื่อสร้างความเข้าใจเชิงลึกในพฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนการพัฒนาองค์กรด้วยการขับเคลื่อนวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลง เมืองไทยประกันชีวิตยังคงเดินหน้าเป็นองค์กรต้นแบบของการนำนวัตกรรมมาสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ลูกค้า สังคม และประเทศชาติ

ในโอกาสนี้ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 2 รางวัลใหญ่จากเวที รางวัล Techsauce Awards 2025 จากงาน Techsauce Global Summit 2025 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้แก่

รางวัล The Sauciest Corporate Transformer ที่แสดงถึงว่าเมืองไทยประกันชีวิตในฐานะองค์กรที่กล้าขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างรอบด้าน ทั้งในมิติของ “คน” ผ่านการเสริมสร้างศักยภาพพนักงานให้สามารถเติบโตและปรับตัวได้ในทุกบริบท “วัฒนธรรมองค์กร” ที่เน้นการเปิดกว้าง ยืดหยุ่น และส่งเสริมพลังของทุกคนในองค์กร “โครงสร้าง” ที่ปรับให้คล่องตัวสอดรับกับกลยุทธ์ยุคใหม่ และ “เทคโนโลยี” ที่ถูกนำมาเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การ “ปรับตัว” แต่สามารถนำพาองค์กร เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านประสิทธิภาพการดำเนินงาน ความพึงพอใจของลูกค้า และความเชื่อมั่นของพนักงาน ในระยะยาว อีกทั้งยังสะท้อนถึงบทบาทของเมืองไทยประกันชีวิตในฐานะ องค์กรต้นแบบที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจและการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ และพร้อมรับมือกับอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

รางวัล The Sauciest People Leader ซึ่งมอบให้แก่ คุณสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นรางวัลที่แสดงถึงบทบาทของผู้นำยุคใหม่ที่โดดเด่น ไม่เพียงขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและเปี่ยมพลัง หากแต่ยังแสดงถึงความใส่ใจอย่างลึกซึ้งต่อทีมงาน ผ่านการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความไว้วางใจ และการเปิดพื้นที่ให้บุคลากรสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่

พร้อม เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ เติบโต และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นผู้นำที่สื่อสาร สร้างแรงบันดาลใจ และจุดประกายความเชื่อมั่นในทีม

รางวัลอันทรงเกียรติทั้งสองสาขา สะท้อนถึงความสำเร็จของเมืองไทยประกันชีวิตในการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นหัวใจในการดำเนินงาน ทั้งในด้านการบริหารภายใน การพัฒนาบุคลากร และการส่งมอบประสบการณ์ให้ดีที่สุดแก่ลูกค้า ด้วยแนวคิด “Customer-Centric Transformation” ที่ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกมิติของการเปลี่ยนแปลง

เมืองไทยประกันชีวิตถือเป็นหนึ่งในองค์กรต้นแบบของการบริหารจัดการเปลี่ยนผ่าน (Transformation Management) ที่ไม่เพียงแต่สามารถปรับตัวต่อโลกยุคใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังสามารถ สร้างแรงบันดาลใจให้ทั้งองค์กรลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงร่วมกัน พร้อมก้าวสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน

เมืองไทยประกันชีวิตจะยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กรในทุกมิติ พร้อมรับการปรับเปลี่ยนอย่างสร้างสรรค์ การเรียนรู้ การเติบโต และยืนหยัดเคียงข้างลูกค้า โดยไม่เพียงมุ่งสู่ความสำเร็จทางธุรกิจเท่านั้น หากยังยึดมั่นในบทบาทของการเป็นพลังสนับสนุนสังคมไทยให้เดินหน้าไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน.