นายสรวิศ ไกรฤกษ์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ และสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. กลุ่มสมอทอง เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจการเกษตร โดยใช้ชื่อย่อ “SMO” ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เพื่อขยายกำลังการผลิตและบูรณาการในห่วงโซ่อุปทานน้ำมันปาล์มดิบ เสริมความแข็งแกร่งด้าน ESG และประสิทธิภาพการดำเนินงาน ตลอดจนยกระดับการเชื่อมโยงกับเครือข่ายเกษตรกร เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันไทย
SMO เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) และผลพลอยได้ และผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยการบริหารทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เริ่มจากคัดสรรวัตถุดิบ การจัดการผลิตที่มีมาตรฐาน ให้ได้ผลผลิตสูง และนำผลพลอยได้จากการผลิตมาสร้างเป็นพลังงาน ปัจจุบันดำเนินงานผ่านโรงงาน 4 แห่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร และสระบุรี มีกำลังสกัดรวม 240 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมง และกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 14.38 เมกะวัตต์ ภายใต้สัญญารับซื้อไฟฟ้า (PPA) 12.7 เมกะวัตต์ มีช่องทางขายทั้งในและต่างประเทศ นับเป็นหนึ่งในผู้ผลิต CPO รายสำคัญของประเทศ
นายกิตติพงษ์ พวงมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. กลุ่มสมอทอง กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาธุรกิจและเสริมศักยภาพในการเติบโตให้กับบริษัท ด้วยความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่มีประสบการณ์ยาวนานในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน เป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบชั้นนำของประเทศ มีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม และสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศ รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ ก็มีส่วนช่วยในการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน หลังจากการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน ขยายธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน บริษัทพร้อมมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ดูแลชุมชน และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องด้วยธรรมาภิบาลที่ดี และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
ข้อมูลการเสนอขาย: SMO มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 920 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวน 231.6 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้มีอุปการคุณ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท รวมถึงบุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัท ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม และ 3-4 พฤศจิกายน 2568 ในราคาหุ้นละ 5.40 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนจากหุ้นใหม่ 1,250.64 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,968 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 7.60 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully Diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.71 บาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
ผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO: 1) กลุ่มครอบครัวพวงมาลา ถือหุ้น 20.46% 2) ครอบครัวพิริเยศยางกูล ถือหุ้น 20.16% และ 3) กลุ่มครอบครัวลัม ถือหุ้น 17.75% ทั้งนี้ บริษัทมี นโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองต่างๆ โดยพิจารณาจากงบการเงินรวม
ผู้ลงทุนและผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.smothonggroup.com และ www.set.or.th




